บรรดาผู้ที่พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันเชื่อว่าไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าไฟป่า พระองค์ไม่เพียงแต่นำความตายมาสู่ต้นไม้และพืชพรรณอื่นๆ เท่านั้น แต่ยังทำลายชีวิตทั้งปวงในป่าและเป็นภัยต่อชีวิตมนุษย์ด้วย น่าเสียดายที่สาเหตุของภัยพิบัติมักเป็นการแกล้งกันด้วยไฟ บุหรี่ที่ยังไม่ดับ หรือแคมป์ไฟที่นักท่องเที่ยวไม่ดับ
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
น่าเสียดายที่มนุษย์เป็นผู้รับผิดชอบต่อไฟป่าส่วนใหญ่ ความไม่เต็มใจที่จะสังเกตความปลอดภัยจากอัคคีภัยในป่า การขาดความรับผิดชอบ และความโง่เขลา ทำให้ป่าอันมีค่าหลายพันเฮกตาร์ถูกเผาทิ้งทุกปี ดังนั้นก่อนไปเดินป่า ไปเดินเล่นหรือทำงานในป่า ให้อ่านกฎความปลอดภัยจากอัคคีภัยและพยายามปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ขั้นตอนที่ 2
ในฤดูร้อน เมื่ออากาศร้อนและแห้ง หากไม่มีฝนเป็นเวลานาน พยายามอย่าปรากฏในป่าเว้นแต่จำเป็นจริงๆ หากคุณไปถึงที่นั่น อย่าจุดไฟในบริเวณที่มีต้นสนอ่อน ในพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้และบริเวณป่าที่ได้รับความเสียหาย ในบริเวณที่โค่นล้ม อันตรายอย่างยิ่งคือไฟที่เกิดจากพรุพรุ ซึ่งสามารถคุกรุ่นเป็นเวลานาน ก่อให้เกิดภัยคุกคามเป็นเวลาหลายปี
ขั้นตอนที่ 3
หากจำเป็น ให้จุดไฟในบริเวณที่มีอุปกรณ์พิเศษพร้อมเครื่องมือและกล่องทราย หากไม่มีพื้นที่ดังกล่าว ให้เลือกพื้นที่เปิดโล่งใกล้น้ำ ในกรณีที่เกิดไฟไหม้ ให้กำจัดพืชและกิ่งไม้แห้งทั้งหมดภายในรัศมีอย่างน้อย 0.5 เมตร ก่อนออกจากสถานที่นี้ อย่าลืมเติมน้ำถ่านหินจนเดือดจนหมด
ขั้นตอนที่ 4
อย่าทิ้งเหยือกและขวดแก้วในป่า ตีให้น้อยลง เศษแก้วสามารถทำหน้าที่เหมือนเลนส์ในวันที่มีแดดจัดและจุดไฟเผาหญ้าหรือตะไคร่น้ำแห้งโดยเน้นที่แสงแดด อย่าโยนก้นบุหรี่และไม้ขีด อย่าใช้ท่อสูบบุหรี่ในป่า หากคุณเป็นนักล่า อย่าใช้ปึกที่ทำจากวัสดุที่ติดไฟหรือลุกเป็นไฟ
ขั้นตอนที่ 5
เมื่อทำงานในป่าอย่าโยนผ้าขี้ริ้วและเศษผ้าที่แช่ในน้ำมันเบนซินและน้ำมันก๊าดให้วางขยะดังกล่าวในที่พิเศษ ห้ามเติมเชื้อเพลิงถังเชื้อเพลิงในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน ห้ามใช้กลไกที่บกพร่อง หยุดสูบบุหรี่ใกล้รถยนต์และอุปกรณ์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน
ขั้นตอนที่ 6
ในช่วงฤดูแล้งห้ามเผาหญ้าแห้งบนที่ดินและบริเวณพื้นที่ใกล้ป่า หากเป็นเหตุฉุกเฉิน ให้อยู่ด้วยในขณะเผาหญ้า เพื่อดับไฟทันทีในกรณีที่เกิดอันตราย